การเคหะแห่งชาติ (กคช.) บูรณาการความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมจัดกิจกรรม Big Cleaning Day ระหว่างวันที่ 7-9 ก.พ.63 ลดฝุ่นละออง PM 2.5 ในบริเวณพื้นที่เคหะชุมชนห้วยขวางและตลาดสด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยและประชาชนที่สัญจรไปมาได้เกิดสุขอนามัยที่ดี นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร
ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาความสะอาดในชุมชนและเล็งเห็นถึงปัญหาเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในปัจจุบัน และถือเป็นปัญหาใหญ่ของผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นอย่าง โครงการเคหะชุมชนห้วยขวางที่มีอาคารพักอาศัยถึง 38 อาคาร และยังมีพื้นที่ภายในโครงการและโดยรอบอีกจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นเมืองขนาดย่อมอีกแห่งก็ว่าได้ ตนจึงได้หารือกับตัวแทนชุมชนห้วยขวางและกรุงเทพมหานครจะจัดกิจกรรม Big Cleaning Day บริเวณรอบชุมชนและตลาดสด ระหว่างวันที่ 7 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อกำจัดขยะสะสม ปรับแต่งภูมิทัศน์พื้นที่ รวมถึงทำความสะอาดครั้งใหญ่ ซึ่งยังเป็นการช่วยลดจำนวนฝุ่นละออง PM 2.5 ในบริเวณพื้นที่เคหะชุมชนห้วยขวาง ทำให้ผู้อยู่อาศัยและประชาชนที่สัญจรไปมามีสุขอนามัยที่ดี ลดอัตราการเจ็บป่วยให้น้อยลงได้อีกด้วย
ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า การบริการด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานถือเป็นหนึ่งในหน้าที่สำคัญของกรุงเทพมหานครที่จะต้องดูแลคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ดังนั้นในนามตัวแทนของกรุงเทพมหานครมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมขับเคลื่อนกับ การเคหะแห่งชาติจัดกิจกรรม Big Cleaning Day ในบริเวณเคหะชุมชนห้วยขวาง เบื้องต้นได้มีการประสานงานไปยัง พลโท ธรรมนูญ วิถี แม่ทัพภาคที่ 1 เรื่องขอกำลังพลทหารที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุน รวมทั้งได้มีการวางแผนการทำความสะอาดระหว่างวันที่ 7 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ทั่วทั้งบริเวณ ได้แก่ บริเวณรอบอาคารพักอาศัย บริเวณตลาดสด ทางเท้าและทางสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งนอกจากเคหะชุมชนห้วยขวางแล้ว กรุงเทพมหานครจะพิจารณาพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เพื่อเป็นการช่วยลดการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อีกทางหนึ่ง การจัดกิจกรรม Big Cleaning Day จะเริ่มที่เคหะชุมชนห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 7 – 9 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10:00 – 16:00 น. หลังจากนั้นการเคหะแห่งชาติและหน่วยงานกรุงเทพมหานครจะพิจารณาว่า จะดำเนินการในพื้นที่ใดต่อไป