ซัคเซสมอร์ โชว์กำไรไตรมาส 3 ดีกว่าคาด อยู่ที่ 11.6 ล้านบาท ลุ้น Q4 ฟื้นตัวแกร่งหนุนช่วงท้ายปี เปิดกลยุทธ์ “เฮลท์ธิ มอร์”จ่อเปิดสินค้าใหม่เจาะแพลตฟอร์มออนไลน์ดัง

0
102

บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ประกาศผลงานไตรมาส 3/2567 ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 11.6 ล้านบาท โดยมียอดขายหลักมาจากสินค้าในกลุ่มผลิตเสริมอาหาร แบรนด์ Nutrinal และกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart Creation ที่มียอดขายปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจใหม่จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567

นายแพทย์ สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ เดินหน้าเต็มกำลังเพื่อทำให้ “เฮลท์ธิ มอร์” ซึ่งเป็นบริษัทลูก สามารถเริ่มดำเนินการในเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรก “Deli-Kare” ซึ่งเป็นแผ่นเช็ดระงับกลิ่นกายชนิดพกพาใช้งานง่ายและสะดวก เจาะกลุ่มลูกค้าอี-คอร์เมิร์ช ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 100% พร้อมรุกขยายตลาดดิจิทัลเต็มกำลัง คาดว่าจะสร้างการเติบโตในอนาคตได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ด้วยจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการสร้างการเติบโตในระยะยาว บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญในการ Diversify ธุรกิจเพื่อเพิ่มเติมรายได้ให้สูงขึ้น นอกเหนือจากธุรกิจเครือข่ายที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดเป็น New S Curve ให้บริษัทฯ โดยบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญและโฟกัสธุรกิจเครือข่ายซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ อยู่เช่นเดิม ด้วยการพัฒนาและผลิตสินค้าคุณภาพหลายรายการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน (Health & Wellness) ควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางและเครื่องมือให้สมาชิกนักธุรกิจเครือข่าย สามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตทั้งในธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ได้อย่างแน่นอน

นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 162.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 (QoQ)

ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 12.7 ล้านบาท โดยกำไรที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายที่ลดลงในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศ ที่ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก ประกอบภาวะการแข่งขันในตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณายอดขายเครื่องทำน้ำแร่ ซึ่งเป็นสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart Creation ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เทียบกับช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2567 (QoQ) และเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2566 (YoY) พบว่ามียอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้น 129.6% และ 63.6% ตามลำดับ ตามแผนการตลาด The Second Wave ที่สนับสนุนให้สมาชิกสามารถขายต่อสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ได้มากขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมยอดขายและผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวในทิศทางเชิงบวก

นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ ได้ทำการตลาดเชิงรุกควบคู่ไปกับการขยายฐาน สมาชิกเพิ่มเติม รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมการขาย ทำให้รายได้จากการขายสินค้าและบริการ ยังคงอยู่ในทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง
รายได้จากการส่งออกสินค้าไปให้กับตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 เพิ่มขึ้น 9.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 96.2% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่บริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาและมาเลเซีย ที่เริ่มฟื้นตัวและมีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้ยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและมาเลเซียปรับตัวดีขึ้น และส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยของตัวแทนจำหน่ายในสองประเทศนี้ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย

และเพื่อผลักดันให้ SCM เป็นบริษัทที่มีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้มองหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยที่ในปี 2568 บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างมั่งคง ผ่านกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการบริหารจัดการฐานข้อมูลสมาชิกและลูกค้าร่วมกับการทำโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์อย่างต่อเนื่อง
“ซัคเซสมอร์ ยังคงยึดมั่นในพันธกิจการสร้างผลกระทบเชิงบวกเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน ด้วยสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสูงสุด ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างองค์ความรู้ พร้อมเลือกแบรนด์ นิวทรินัล ให้เป็นที่ 1 ในใจเมื่อนึกถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้วยแผนการบุกตลาดทั้งออฟไลน์ และช่องทางออนไลน์ โดยโปรโมทผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ให้ครอบคลุมสมาชิกและผู้บริโภคที่กระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์เทรนด์ดูแลสุขภาพอย่างเข้มข้น”


เกี่ยวกับซัคเซสมอร์
บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยนายสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์และนายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรง (Multi-level Marketing หรือ “MLM”) บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2562 โดยบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท บริษัทฯ มีบริษัทย่อยทั้งหมด 4 บริษัท คือ บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด (“SMI”) บริษัท ซัคเซส สปิริต จำกัด (“SPT”) บริษัท SCM Spirit (Myanmar) Co., Ltd. (“SPM”) และบริษัท จัดให้ ลิสซิ่ง จำกัด