“กรุงไทย” เปิดตัวเงินฝากสีเขียวมาตรฐานสากล นำร่องโครงการบริหารสภาพคล่องเชื่อมโยงเป้าหมาย ESG กับ “ปตท. และ ปตท.สผ.” ครั้งแรกในไทย

0
342

กรุงไทยสร้างบรรทัดฐานใหม่ของธนาคารพาณิชย์ไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เงินฝากสีเขียว” (Green Deposits) ทั้ง สกุลเงินบาท และ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้หลักเกณฑ์การจัดหาเงิน และการปล่อยสินเชื่อเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) โดยมี ISS Corporate Solutions (ISS-ESG) เป็นผู้สอบทานภายนอก ตามมาตรฐานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมระดับสากล พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม (ESG Financial Solution) จับมือบริษัท ปตท.และ ปตท.สผ. ลงนาม “โครงการบริหารสภาพคล่องเชื่อมโยงเป้าหมายด้าน ESG ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เงินฝากสีเขียว” ครั้งแรกในประเทศไทย ตอบโจทย์ทั้งการบริหารเงินลงทุนของบริษัท ในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด และสนับสนุนนโยบายการเติบโตแบบยั่งยืน โดยภายใต้โครงการความร่วมมือนี้ ธนาคารจะนำเงินฝากสีเขียวจาก ปตท. และ ปตท.สผ. ไปให้สินเชื่อที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) โครงการขนส่งด้วยพลังงานสะอาด (Clean Transportation) โครงการอาคารสีเขียว (Green Building) อีกทั้งมีการตั้งเป้าตัวชี้วัดด้าน ESG โดยธนาคารจะสนับสนุนผลตอบแทน หรือคาร์บอนเครดิตเพิ่มเติม หาก ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินงานตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้ง 3 องค์กรในการบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนระยะยาวในทุกภาคส่วน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ตลอดจนประยุกต์แนวคิดเรื่องสิ่งแวดล้อมกับการบริหารจัดการทางการเงินให้พัฒนาไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุดได้มีการลงทุน “เงินฝากสีเขียว” (Green Deposits) ของ กลุ่ม ปตท. กับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อแก่โครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการพลังงานหมุนเวียน โครงการขนส่งด้วยพลังงานสะอาด โครงการอาคารสีเขียว ตลอดจน ในกรณีที่ ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินการตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ธนาคารกรุงไทยยังจะสนับสนุนผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน T-VER อีกด้วย ความร่วมมือระหว่าง กลุ่ม ปตท. กับ ธนาคารกรุงไทย ในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการเชื่อมโยงแผนธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เข้ากับผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) และเงินฝากสีเขียวเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำถึงความตั้งใจของกลุ่ม ปตท. ในการปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นการลงทุนในธุรกิจคาร์บอนต่ำ ที่นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่ม ปตท. และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้กับประเทศไทยแล้ว ยังช่วยสนับสนุนให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2050 พร้อมจุดพลังขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยว่า ปตท.สผ. ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตามแผนกลยุทธ์ โดยการขับเคลื่อนธุรกิจหลักด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการบริหารจัดการการลงทุนในโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีคาร์บอนตํ่า การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต เช่น การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CCS (Carbon Capture and Storage) และการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนและป่าบก รวมทั้ง การขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และเพื่อเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 ด้วย ซึ่งการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการบริหารจัดการทางการเงินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายของปตท.สผ. ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) รวมทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN SDGs) ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันอีกด้วย

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ธนาคารมุ่งมั่นนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม สนับสนุนการทำธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาโลกร้อน และขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก (Net Zero Emission) ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างคุณค่า ตอบโจทย์ลูกค้า สู่ความยั่งยืน” โดยยึดหลักการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ธนาคารได้จัดทำหลักเกณฑ์การจัดหาเงินและการปล่อยสินเชื่อเพื่อโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Financing Framework) ตามมาตรฐานด้านการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับสากล เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแบบครบวงจร สร้างมาตรฐานการให้บริการการเงินสีเขียวครบวงจร ครอบคลุมเงินฝาก สินเชื่อ และบริการทางการเงินอื่นๆ ที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมสู่ความยั่งยืน

“ธนาคารได้รับการสนับสนุนจาก ปตท. และ ปตท.สผ. เข้าดำเนินโครงการลงทุนเพื่อบริหารสภาพคล่องที่ครอบคลุม Green Deposits และเชื่อมโยงกับตัวชี้วัดด้าน ESG หาก ปตท. และ ปตท.สผ. ดำเนินการตามเป้าหมาย ESG ได้สำเร็จ ธนาคารพร้อมสนับสนุนผลตอบแทนเพิ่มเติม หรือคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน Verra และ T-VER ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทั้ง 3 องค์กร ได้ร่วมสร้างนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ ให้ตลาดเงินและตลาดทุนไทย หลังประสบความสำเร็จจากการทำ The 1st Carbon Credit Linked FX Derivatives และ The 1st ESG Linked Derivatives กับ ปตท. และ ปตท.สผ. โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการจัดการบริษัทที่ดี เพื่อผลลัพธ์ทางการเงินที่ยั่งยืนในระยะยาว และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้กับประเทศไทย”

“Krungthai” launches international standard green deposits and pioneers Thailand’s first Green and ESG-linked Investment Program with “PTT and PTTEP”

Krungthai Bank has set a new standard for Thai commercial banks by introducing “Green Deposits” in Thai Baht and US Dollar denominations under the Green Financing Framework, with ISS Corporate Solutions (ISS-ESG) as the external reviewer to ensure compliance with international standards for green financing principles. The bank has fortified its status as a leader in ESG financial solution providers by partnering with PTT and PTTEP to introduce Thailand’s first “Green and ESG-linked Investment Program” which addresses the companies’ investment management needs for diverse investment products and optimal returns while supporting their efforts toward sustainable growth. Under this program, green deposits from the PTT and PTTEP will be earmarked for financing projects with positive environmental impacts, such as those involving renewable energy, clean transportation, and green building development. Additionally, ESG indicators are set, and the bank will give additional returns or carbon credits if PTT and PTTEP achieve their ESG targets. This partnership reaffirms the commitment of all three organizations to achieving long-term sustainability goals across all sectors.

Auttapol Rerkpiboon, President and Chief Executive Officer of PTT Public Company Limited (PTT), said that PTT has increased the proportion of its investment in the environmentally friendly clean energy industry and aims to grow in sectors beyond energy. Moreover, it has implemented green principles in its financial management strategy to ensure synchronized growth in both areas. Recently, it has invested in the green deposit for PTT Group by Krungthai Bank, the funds from which will be directed toward financing environmentally friendly projects like renewable energy, clean transportation, and green buildings. Krungthai will also provide additional returns or high-quality carbon credits that meet the T-VER standard if PTT and PTTEP meet the ESG targets. This partnership integrates its business plans, which are aligned with a sustainable organization development approach, with their environmental, social, and governance (ESG) performance. Also, it reinforces its commitment to transitioning toward a more environmentally friendly business model. Through investments in low-carbon industries, PTT Group aims to strengthen its business, contribute to Thailand’s economic growth, and achieve carbon neutrality by 2040 and net zero emissions by 2050. Ultimately, these efforts will contribute to driving Thailand toward a low-carbon society and sustainably improving the quality of life for Thai people in the future.

Montri Rawanchaikul, Chief Executive Officer of PTT Exploration and Production Public Company Limited (PTTEP), stated that PTTEP is pursuing sustainable growth as outlined in its strategic plan by focusing on our core businesses—petroleum exploration and production—to ensure energy security and decarbonization. We are also investing in low-carbon petroleum exploration and production projects, developing emission reduction technologies such as carbon capture and storage technology, and offsetting carbon emissions by reforestation of both mangrove and terrestrial forests. Investment in the clean energy industry is another key focus to support energy transition and pursue the company’s 2050 Net Zero Greenhouse Gas Emissions goal. In addition to enhancing the company’s financial management efficiency, this investment program for liquidity management aligns with PTTEP’s ESG policies while addressing the United Nations Sustainable Development Goals (SDGs), which are directly related to the company’s business. It is a collaborative effort to promote sustainable growth.

Payong Srivanich, Chief Executive Officer of Krungthai Bank, said that as a leading commercial bank in Thailand, Krungthai Bank is committed to leveraging innovation and technology to develop financial products and services that cater to the needs of all customer segments, support environmentally friendly business practices, address climate change, and drive the country to achieve its net-zero emissions goal. Krungthai Bank is conducting its business with the guiding theme “Reshaping Client Value Proposition and Promoting Sustainability with Innovation,” prioritizing environmental, social, and governance issues as well as addressing the United Nations Sustainable Development Goals. Recently, the bank introduced a green financing framework that aligns with international green financing standards. The framework will serve as a comprehensive guideline for issuing green products and set a standard for all green finance services, including deposits, loans, and other financial solutions, to ensure alignment with international standards. These products will contribute to promoting the sustainability of the economy and society.

“The bank receives support from PTT and PTTEP through this investment program for liquidity management, which features green deposits and is linked to ESG indicators. Providing that PTT and PTTEP achieve their ESG goals, the bank will support additional returns or high-quality carbon credits certified by the widely recognized Verra and T-VER standards.  This collaboration represents a pivotal milestone for the three organizations’ endeavor to introduce new financial products for the Thai financial and capital markets following the success of the first carbon credit-linked FX derivatives and the first ESG-linked derivatives with PTT and PTTEP. We focus on driving positive environmental changes through investments and prioritizing socially responsible business practices and good governance. All this is to achieve sustainable financial outcomes and drive positive changes for Thailand,” Payong said.